เด็กไทยส่วนใหญ่ ไม่รู้จักตัวเอง กว่าจะรู้ตัวอีกทีก็ตอนทำงานแล้ว จะดีกว่ามั้ยถ้าน้องๆ ได้สัมผัสอาชีพในฝันและลงมือทำ ก่อนตัดสินใจเลือกเส้นทางในอนาคต
Know Are เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านแนะแนวการศึกษาเชิงลึก ที่มีพื้นที่ให้น้องๆ ได้ค้นหาตัวเองผ่านกระบวนการทำกิจกรรมและโค้ชชิ่ง โดยเปิดโอกาสให้หลากหลายช่วงวัย มีกิจกรรมที่ให้น้องได้ค้นหาตัวเองตลอดทั้งปี
“ค้นหาตัวเอง” กับค่ายแนะแนวการศึกษายุคใหม่ที่เปิดโอกาสให้เด็กไทยไป “ตามติดการทำงานอาชีพในฝัน” กับ Dc Master เปิดประสบการณ์อาชีพ
หลายครั้งผู้ใหญ่ก็มักถามเด็กว่าโตขึ้นอยากเป็นอะไร โดยไม่ได้สนใจว่าการที่เด็กสักคนจะเจอกับเป้าหมายในชีวิตได้ต้องผ่านการเรียนรู้อะไรบ้างและเป็นการโยนภาระความคิดไปกดดันเด็กโดยไม่รู้ตัว
จากปัญหาเหล่านี้ทำให้เราตั้งคำถามว่า แล้วถ้าเราจะเริ่มต้นค้นหาเป้าหมายในชีวิตเราควรเริ่มต้นจากอะไร คำตอบคือ “รู้จักตัวเองและหาประสบการณ์” ใส่ตัวให้เยอะที่สุด
ศาสตราจารย์โฮวาร์ด การ์ดเนอร์ (Howard Gardner) นักจิตวิทยา มหาวิทยาลัยฮาวาร์ด กล่าวว่าปัญญาของมนุษย์มีอยู่อย่างน้อย 7 ด้าน คือ ด้านภาษา ด้านตรรกศาสตร์และคณิตศาสตร์ ด้านมิติสัมพันธ์ ด้านร่างกายและการเคลื่อนไหว ด้านดนตรี ด้านมนุษยสัมพันธ์ และด้านการเข้าใจตนเอง ต่อมาในปี พ.ศ. 2540 ได้เพิ่มเติมเข้ามาอีก 1 ด้าน คือ ด้านธรรมชาติวิทยา เพื่อให้สามารถอธิบายได้ครอบคลุมมากขึ้น
ปัญหาสำคัญคือในโรงเรียนของการศึกษาภาคบังคับของไทยให้ความสำคัญหลักๆ อยู่เพียง 2 ด้านคือ ด้านตรรกศาสตร์และคณิตศาสตร์ และด้านภาษา ทำให้เด็กยังขาดประสบการณ์อีกหลายด้านจนไม่มากพอที่จะบอกได้ว่าตัวเองชอบหรือเหมาะกับอะไร
Know-Are เล็งเห็นปัญหาเหล่านี้จึงจัดโครงการ ค่ายเปิดประสบการณ์อาชีพในฝัน DC Master ขึ้นเพื่อให้น้องๆ ได้มีโอกาสเรียนรู้ทักษะที่หลากหลายผ่านการสัมผัสประสบการณ์จากการเห็นชีวิต เห็นบรรยากาศการทำงาน และได้ลองลงมือทำจริง ซึ่งการเรียนรู้แบบนี้เราเรียนว่าเรียนรู้แบบ Problem Base Learning คือให้น้องได้ไปเผชิญกับปัญหาจนเกิดความต้องการอยากแก้ไขปัญหา นำไปสู่การเรียนรู้และพัฒนาทักษะต่างๆ ในที่สุด
กระบวนการเหล่านี้หากทำซ้ำจนครบตามทฤษฎีพหุปัญญาแล้วจะเกิดการสะท้อนความคิดของน้องให้ตอบคำถามถึงความชอบ ความสนใจและนำไปสู่เป้าหมายในชีวิตได้ในอนาคต